รวม 12 ชาเลนจ์เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม
3 ก.พ. 2022

ปีนี้ในโซเซียลเราจะเห็นว่ามีคนชาเลนจ์เพื่อตัวเองมากมาย มีหลายคนที่อยากเริ่มอะไรใหม่ๆ เพื่อสร้างนิสัยให้ตัวเอง ถือเป็นการก้าวผ่านขีดจำกัดของตัวเองด้วย ถ้าเราตั้งใจทำอะไรบางอยากได้ครบ 21 วัน สิ่งนั้นมันจะเริ่มกลายเป็นนิสัยเราเอง เราอยากเป็นแบบไหนอยากได้แบบไหนเราก็ต้องให้เวลากับสิ่งนั้นอย่างเต็มที่ เรามาดูกันว่าเราจะเริ่มชาเลนจ์จากอะไรดี

 

รวม 12 ชาเลนจ์เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม

1. ชาเลนจ์ลดน้ำหนัก

หลายคนก็รู้วิธีการลดน้ำหนักแต่หลายครั้งที่เราทำได้ไม่เพราะเราห้ามใจตัวเองไม่ได้ ใจไม่แข็งพอที่จะลดน้ำหนัก เราลองเริ่มจากชาเลนจ์ตัวเองสัก 7-10 วันในการลดครั้งนี้ดู จะใช้วิธีแบบไหนก็ได้ตามที่ตัวเองทำได้และไม่ต้องฝืนตัวเองมาก ถ้าทำได้แล้วอย่างน้อยเราก็จะเริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้วแหละ เริ่มมีกำลังใจลดต่อเพราะเมื่อใส่เสื้อตัวเดิมแล้วรู้สึกไม่อึดอัด ไม่แน่น จากนั้นก็ค่อยเพิ่มทีละ 5 วันไปเรื่อยๆจากนั้นเราก็จะสามารถลดน้ำหนักได้ หรือถ่ายรูปเก็บไว้ทุกวันหรือจะวัดสัดส่วนให้เห็นชัดเจนก็ได้

 

2. ชาเลนจ์ดื่มน้ำ

ชาเลนจ์ดื่มน้ำ 2-3 ลิตรต่อเนื่องถึง 30 วัน เป็นการจิบระหว่างวันไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ดื่มทีเดียวเยอะๆแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เราขับปัสสาวะบ่อยอาจจะไม่เห็นผลเท่าที่ควร แล้วก็ถ่ายรูปถ่ายวิดิโอการเปลี่ยนของเราในแต่ละวันไว้ด้วย รับรองว่าเห็นผลชัวร์อันดับแรกเลยคือ เราจะรู้สึกว่าเริ่มถ่ายง่ายขึ้น ผิวสวยแลดูสว่างใสขึ้น นอนหลับง่ายและลึก ปากอิ่มน้ำดูสุขภาพดี และน้ำหนักยังจะค่อยๆลงด้วย เรื่องสุขภาพดีขึ้นมากเมื่อลองเริ่มจากสิ่งนี้

 

3. ชาเลนจ์สวดมนต์

การสวดมนต์เป็นเรื่องที่ง่ายแล้วใช้เวลาไม่นานแต่เมื่อทำติดต่อกันนานๆ วิธีการสวดมนต์ที่ดีก็คือการเปล่งเสียงสวดมนต์ด้วย เท่ากับเป็นการสวดมนต์บำบัดซึ่งเป็นหลักการหนึ่งของ Vibrational Therapy คือ การใช้คุณสมบัติของคลื่นเสียงมาบำบัดความเจ็บป่วย สวดบทสั้นๆ 3-4 พยางค์ ใช้เวลา 10-15 นาทีขึ้นไป จะทำให้ร่างกายหลั่งสารเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทมีฤทธิ์คล้ายยานอนหลับ ช่วยเรื่องของการเรียนรู้ ลดความเครียด ลดอาการซึมเศร้า ลดระดับน้ำตาลในเลือดและเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทอื่น ๆ เช่น เมลาโทนิน ซึ่งเปรียบคล้ายกับยาอายุวัฒนะ เพราะจะช่วยยืดอายุการทำงานของเซลล์ประสาท เซลล์ร่างกาย ให้ชีวิตเพิ่มภูมิต้านทาน ทำให้เซลล์สดชื่นขึ้นด้วย และยังเป็นการช่วยยกระดับจิตใจของเราเองด้วย

 

4. ชาเลนจ์ออกกำลังกาย

ชาเลนจ์การออกกำลังกายเริ่มต้นง่ายๆ ได้เองที่บ้านหรือพยายามเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตให้เราได้ใช้กำลังตัวเองมากขึ้น เช่นการเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เดินรอบหมู่บ้าน 15-30 นาที จอดรถให้ทางทางเข้าห้าง หรือจะแพลงกิ้ง 3-5 นาที รู้ไหมเพียงแค่เราออกกำลังกาย 3-5 นาที ก็สามารถเปลี่ยนแปลงเคมีในสมองและทำให้เราสุขภาพดีขึ้น มีความสุขขึ้น ลดความเครียด อารมณ์เสียน้อยลง ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ และในชีวิตประจำวันเราจะรู้สึกกระปรี่กระเปร่า สดชื่นขึ้น กระฉับกระเฉงมากขึ้นด้วย

 

5. ชาเลนจ์กินผักวันละชาม

ชาเลนจ์กินผักวันละชามหรือวันละ 6 ทัพพี จะช่วยลดเสี่ยงโรคเรื้อรังได้ ผักมีใยอาหารช่วยทำความสะอาดลำไส้ ช่วยลดการดูดซึมไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด มีวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยปรับสมดุลเอนไซม์และฮอร์โมนในร่างกายให้ทำงานมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีสารพฤกษเคมีช่วยต้านมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์และเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อทานผักก่อนทานมื้อาหารจะช่วยลดน้ำหนักและช่วยในการขับถ่ายอีกด้วย

 

6. ชาเลนจ์งดของหวาน

คงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ สำหรับผู้หญิงแต่ถ้าคุณลองเปลี่ยนได้ละก็จะมีผลดีตามมามากมายเลย ช่วงแรกที่เรางดน้ำตาลจะทำให้รู้สึกโหยจะด้วยความเคยชินของร่างกาย หรืออาจเป็นเพราะร่างกายกำลังปรับตัวกับปริมาณของน้ำตาลที่ลดลง แต่หลังจากนั้นสุขภาพเราจะดีขึ้น หัวใจแข็งแรงขึ้น ผิวพรรณกระจ่างใสขึ้น และลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานลงได้มาก นอนหลับได้ดีขึ้น ความจำดีขึ้น น้ำหนักลง แล้วเราก็จะรู้สึกมีความสุขขึ้นด้วย โดยเริ่มด้วยจากการซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อให้เปลี่ยนเป็นการกินผลไม้แทน การเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพอาจใช้เวลามากขึ้นแต่การที่คุณสุขภาพดีขึ้น สวยหล่อขึ้น และรู้สึกดีขึ้น ก็จะช่วยให้คุณมุ่งมั่นในการลงมือทำมากขึ้นเช่นกัน

 

7. ชาเลนจ์ตื่นนอน

ชาเลนจ์การตื่นเช้าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะมีผลวิจัยออกมาเลยว่าไม่ว่าจะช่วงอายุไหนก็ตามมีแนวโน้มจะอารมณ์ดี มีความสุขมากกว่าคนที่นอนดึกตื่นสาย และมีเวลาทำสิ่งต่างๆเพิ่มขึ้นด้วยโดยที่ไม่ต้องทำงานแบบเร่งรีบ 

 

8. ชาเลนจ์อ่านหนังสือ

การอ่านหนังสือมีประโยชน์หลายๆ อย่างซึ่งคนตอนนี้ก็มีแนวโน้มว่าอ่านหนังสือลดลงทำให้ขาดสมาธิหลายๆ อย่างไปซึ่งข้อดีของการอ่านหนังสือมีมากมายเลยช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยเพิ่มทักษะการคิดวิเคราะห์ กระตุ้นความจำ เพิ่มทักษะความรู้ ช่วยฝึกสมาธิความตั้งใจ การจดจ่อ ช่วยลดความเครียด เพื่อความผ่อนคลาย และสุดท้ายก็เพื่อความบันเทิง เปรียบได้ว่าการอ่านหนังสือก็คืออาหารสมองฉะนั้นถ้าเราอ่านได้ทุกวันเริ่มจากวันละ 10-15 หน้าจากนั้นก็ชาเล้นท์ไปเรื่อยๆ กำหนดวันเวลาว่า 1 เล่มนี้ควรอ่านจบเมื่อไหร่ เพื่อเป้าหมายที่ตั้งไว้

 

9. ชาเลนจ์โทรศัพท์หาคนที่บ้านทุกวัน

หลายคนที่มาเรียนต่างจังหวัด หรือทำงานไกลบ้าน นานๆ ทีถึงมีเวลากลับบ้าน ก็ควรจะเริ่มจากชาเลนจ์ง่ายๆ ข้อนี้ ถ้าไม่อยากเสียใจภายหลัง ดังนั้นเราก็ควรจะโทรกลับไปหาพ่อแม่หรือคนที่เลี้ยงดูเรามาได้ในทุกวัน อย่างน้อยก็โทรไปถามสารทุกข์สุกดิบ โทรไปให้คนที่บ้านหายคิดถึงเค้าจะได้ไม่ต้องห่วงและเป็นกังวลมากนัก ถ้ามีโอกาสได้กลับไปหาท่านก็ควรกลับและไปใช้เวลาอยู่กับท่านให้ได้มากที่สุด

 

10. ชาเลนจ์พูดขอบคุณ

การพูดขอบคุณเป็นเรื่องที่ง่ายแต่ก็เป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลายๆคน แล้วคนแรกที่เราควรขอบคุณคือตัวเอง ขอบคุณตัวเองให้เป็นนิสัยพูดเมื่อเราทำสิ่งดีๆ หรือเรื่องเล็กๆ ที่ทำเพื่อตัวเองเช่น ขอบคุณตัวเองที่วันนี้ตื่นเช้า ขอบคุณตัวเองที่ก้าวผ่านปัญหานี้ไปได้ ขอบคุณที่วันนี้ทำสิ่งนี้สำเร็จ หรือขอบคุณสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาเช่น ขอบคุณ Youtube ที่เป็นเพื่อและให้ความบันเทิงความรู้กับเรา ขอบคุณน้ำแก้วนั้นที่ช่วยดับกระหาย ขอบคุณความทุกข์ที่ทำให้เห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะดีหรือร้ายแต่คุณก็ผ่านมันมาด้วยความสามารถของคุณฉะนั้นอย่ามองข้ามการขอบคุณ

 

11. ชาเลนจ์เขียนไดอารี่ทุกคืน

ข้อดีของการเขียนไดอารี่ทุกคืนเพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงการเติบโตของเราในแต่ละวัน หรือจะบันทึกสิ่งที่ดีช่วงเวลาที่ดีไว้เป็นความทรงจำที่สำคัญของชีวิต เราได้พัฒนาทักษะการเขียนในทุกๆ วันหรือจะลองปรับมาใช้ภาษาที่ 3 เขียนก็ได้เพื่อเพิ่มทักษะภาษาของตัวเราเอง ได้เรียบเรียงความคิดของตัวเอง มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้นจะได้รู้จักตัวเองจริงๆ 

 

12. ชาเล้นท์ฝึกยิ้มให้ผู้อื่น 

เพราะ “การยิ้ม” เป็นสิ่งที่เราทำได้โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย และการยิ้มเป็นเหมือนโรคติดต่ออย่างหนึ่งนั่นคือ เมื่อคุณยิ้มให้ใครสักคนเค้าคนนั้นก็จะยิ้มตอบกลับมาโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เจอในร้านอาหาร คนบนท้องถนน ที่ทำงานหรือโรงเรียน อีกทั้งมันยังทำให้คุณมีเสน่ห์ต่อผู้อื่นทำให้คุณดูเป็นมิตรและเข้าหาง่ายและเป็นสื่งแรกที่ทำให้คุณมีความสุขเพิ่มขึ้น ลดความเครียดได้ ใครๆที่รู้สึกว่าการยิ้มให้ผู้อื่นก่อนเป็นเรื่องที่ยากก็ลองฝึกยิ้มกับตัวเองให้บ่อยขึ้น ยิ้มหน้ากระจกก็ช่วยฝึกคุณได้ หรือการฝึกยิ้มให้คนแปลกหน้า

 

รวม 12 ชาเล้นท์ที่ทำแล้วช่วยเพิ่มพลังบวกในชีวิต ให้เราได้มองโลกในแง่ดี ช่วยเพิ่มทัศนคติต่อการใช้ชีวิตให้ตัวเองในแต่ละวัน ได้พัฒนาตัวเองในทีละเรื่อง หลังจากที่เราชาเล้นท์เสร็จแล้วเราจะมีความสุขเพิ่มมากขึ้นและอยากจะหาสิ่งอื่นๆ เพื่อชาเล้นตัวเองต่อไป

 


แท็ก :


ผู้เขียน :

ชีวิตไม่มีอะไรเเน่นอน​ ขนาดซีอิ๊วขาวยังเป็นสีดำ
FaoFern

ชีวิตไม่มีอะไรเเน่นอน​ ขนาดซีอิ๊วขาวยังเป็นสีดำ

ออกแบบกราฟิก :

ชีวิตไม่มีอะไรเเน่นอน​ ขนาดซีอิ๊วขาวยังเป็นสีดำ
FaoFern

ชีวิตไม่มีอะไรเเน่นอน​ ขนาดซีอิ๊วขาวยังเป็นสีดำ