
แจกสูตร 6 เมนูเด็ดยอดฮิตของญี่ปุ่น ทำเองได้ง่ายๆ ราคาสบายกระเป๋า
อยากทานอาหารญี่ปุ่นราคาเบาๆ สบายกระเป๋า แถมอิ่มจุกๆ ห้ามเลื่อนผ่านเด็ดขาด!!
ใครว่าอาหารญี่ปุ่นต้องแพงเสมอไป? วันนี้สรรหาแจกสูตรแบบไม่มีกั๊ก พร้อมลายแทงวัตถุดิบชั้นเลิศ รสชาติดี ราคาดียิ่งกว่า…
รวมสูตร 6 เมนูเด็ดยอดฮิตของญี่ปุ่นทำง่าย ไม่ซับซ้อน แถมประหยัดงบ เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร ไม่ว่าจะมือใหม่หรือสายคอนเทนต์ที่อยากเพิ่มสีสันให้มื้ออาหาร ก็เอาไปลองทำตามได้ เอาล่ะค่ะ เตรียมกระทะให้พร้อม แล้วไปดูแต่ละเมนูกันเลย!
1. ข้าวหน้าเนื้อ (Gyudon)
เมนูที่เมื่อนึกถึงแล้วต้องน้ำลายไหล คนรักเนื้อต้องไม่พลาดที่จะสั่งเมนูนี้เมื่อไปร้านอาหารญี่ปุ่น เป็นเมนูที่มีข้าวร้อนๆ ราดด้วยเนื้อตุ๋นชุ่มฉ่ำซอสโชยุ รสชาติกลมกล่อม ท็อปด้วยไข่ออนเซ็นหรือไข่แดงสด ก็คือความฟินแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ทำเองได้ง่ายๆ ไปดูกันเลยค่ะ
วัตถุดิบ (สำหรับ 2 ที่)
・เนื้อวัวสไลซ์บาง (เช่น ริบอาย, ชาบู) – 200 กรัม
・หัวหอมใหญ่ – 1 หัว (หั่นบาง)
・ข้าวญี่ปุ่นหุงสุก – 2 ถ้วย
・น้ำ – 1 ถ้วย
・โชยุ (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) – 3 ช้อนโต๊ะ
คลิกที่นี่เพื่อดูหรือซื้อสินค้า
・มิริน – 2 ช้อนโต๊ะ
・สาเกญี่ปุ่น – 1 ช้อนโต๊ะ
คลิกที่นี่เพื่อดูหรือซื้อสินค้า
・น้ำตาล – 1 ช้อนโต๊ะ
・น้ำมันงา (เล็กน้อย)
คลิกที่นี่เพื่อดูหรือซื้อสินค้า
・ขิงดอง, ต้นหอมซอย, ไข่ออนเซ็น/ไข่แดงดิบ – สำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
1.เตรียมวัตถุดิบ
- หั่นหัวหอมเป็นเสี้ยวบาง
- ล้างเนื้อวัวให้สะอาด ซับให้แห้ง
2. เริ่มทำซอส
- ตั้งกระทะด้วยไฟกลาง ใส่น้ำมันงานิดหน่อย
- ผัดหัวหอมให้หอมและเริ่มนิ่ม (ประมาณ 2-3 นาที)
- เทน้ำ 1 ถ้วยลงในกระทะ ใส่โชยุ, มิริน, สาเก, น้ำตาล คนให้เข้ากัน
- เคี่ยวซอสให้ร้อนจัด แล้วหรี่ไฟลงเล็กน้อย
3. ใส่เนื้อวัวลงกระทะ
- ใส่เนื้อวัวลงในซอส เคี่ยวต่อจนเนื้อเปื่อยนุ่ม (ประมาณ 3-5 นาที ขึ้นอยู่กับความบางของเนื้อ)
- ไม่ต้องคนแรงมาก เพราะจะทำให้เนื้อแตก
4. ตักราดข้าวญี่ปุ่น
- ตักข้าวญี่ปุ่นใส่ชาม แล้วราดด้วยเนื้อวัวและน้ำซอส
- ท็อปด้วยไข่ออนเซ็น, ต้นหอมซอย และขิงดอง
เคล็ดลับ
✧ ใช้เนื้อที่มีไขมันแทรก จะนุ่มมาก!
✧ ซอสสามารถปรับรสตามชอบได้ ถ้าชอบหวานเพิ่มน้ำตาลอีกนิด
✧ ถ้าไม่มีสาเกและมิริน สามารถใช้น้ำเปล่าผสมกับน้ำตาลเพิ่มเล็กน้อยแทนได้
2.ข้าวหน้าไก่เทริยากิ (Teriyaki Chicken Don)
เมนูไก่เทอริยากิไม่ใช่แค่เมนูยอดฮิตของร้านอาหารญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ร้านของไทยทั่วไป ก็มักจะมีเมนูนี้อยู่ด้วย ด้วยความที่เป็นไก่หนังกรอบ เนื้อนุ่ม ซอสฉ่ำๆ หวานเค็ม กลมกล่อมพอดี ราดบนข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ กินคู่กับผักลวก ไข่ออนเซ็น หรือสลัดเคียงเบาๆ ก็คือดีต่อใจสุดๆ
วัตถุดิบ (สำหรับ 2 ที่)
・สะโพกไก่ติดหนัง (หรือไม่ติดหนังก็ได้) – 2 ชิ้น
・โชยุ (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) – 3 ช้อนโต๊ะ
・มิริน – 2 ช้อนโต๊ะ
คลิกที่นี่เพื่อดูหรือซื้อสินค้า
・สาเก – 1 ช้อนโต๊ะ
・น้ำตาล – 1 ช้อนโต๊ะ
・น้ำมันพืช – เล็กน้อยสำหรับย่าง
・ข้าวญี่ปุ่น – 1 ถ้วย
คลิกที่นี่เพื่อดูหรือซื้อสินค้า
・งาขาวคั่ว / ต้นหอมซอย / ผักลวก / ไข่ออนเซ็น – สำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
1. เตรียมวัตถุดิบ
- ล้างไก่ให้สะอาด ซับให้แห้ง แล้วใช้ส้อมจิ้มให้ทั่ว เพื่อให้ซอสซึมเข้าเนื้อ
- หากใช้ไก่ติดหนัง ให้บั้งเล็กน้อย เพื่อให้สุกทั่วและหนังไม่หด
2. วิธีหุงข้าวญี่ปุ่น
- ตวงข้าวญี่ปุ่นตามจำนวนที่ต้องการ เช่น 1 ถ้วย = 2 ที่รับประทาน
- ซาวข้าวให้ใสน้ำ (เปิดน้ำล้างแล้ววนเบาจากนั้นเททิ้ง ทำแบบนี้ 3-4 รอบ)
- ใส่น้ำตามสัดส่วน โดยทั่วไปจะประมาณนี้ (ข้าว : น้ำ = 1 : 1.2)
- กดหุงตามปกติ
- พักข้าว (สำคัญมาก!) หลังหม้อดีด อย่าเพิ่งเปิดฝาให้ พักข้าวไว้ในหม้อประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ไอน้ำกระจายทั่ว ข้าวจะนุ่มและเรียงเม็ดสวย
- ใช้พายคนข้าวเบาๆ เพื่อให้ข้าวฟู ไม่อับ ไม่แฉะ เป็นอันเสร็จ!
3. ย่างไก่
- ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันเล็กน้อย
- วางไก่ด้านหนังลงไปย่างก่อน ใช้ไฟกลาง-อ่อน กดให้หนังแนบกระทะ จะช่วยให้หนังกรอบ
- พลิกกลับด้าน ย่างอีกฝั่งจนสุกทั่ว (ประมาณ 6-8 นาที)
4. ทำซอสเทริยากิ
- ผสมโชยุ + มิริน + สาเก + น้ำตาล เข้าด้วยกัน
- เทซอสลงกระทะที่มีไก่อยู่ เคี่ยวไฟกลางจนซอสข้นและเคลือบตัวไก่ทั่วๆ (ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที)
5. หั่นและจัดจาน
- หั่นไก่เป็นชิ้นพอดีคำ
- ตักข้าวใส่ชาม วางไก่ลงบนข้าว ราดด้วยซอสที่เหลือในกระทะ
- โรยงาขาว ต้นหอมซอย เสิร์ฟพร้อมผักลวกหรือไข่ออนเซ็น
เคล็ดลับ
✧ ใช้ไก่ส่วนสะโพก ได้นุ่มฉ่ำกว่าส่วนอื่น
✧ หากไม่มีมิริน ใช้น้ำตาลผสมน้ำเล็กน้อยแทนได้
✧ สามารถหมักไก่ไว้ก่อน 30 นาทีจะได้รสเข้มข้น ซึมเข้าเนื้อมากขึ้น
3. ซุปมิโสะ (Miso Soup)
ซุปที่แสนจะเรียบง่าย รสชาติกลมกล่อม ละมุนกำลังพอดี เสน่ห์ของซุปมิโสะอยู่ที่น้ำซุปดาชิ บวกกับรสมิโสะหมักมีทั้งรสหวานรสเค็มและความหอมเฉพาะตัว เพิ่มเติมด้วยเต้าหู้นุ่มๆ และสาหร่ายวากาเมะ ก็ทำให้ซุปมิโสะสมบูรณ์แบบขึ้นมาทั้นทีค่ะ
วัตถุดิบ (สำหรับ 2-3 ที่)
・มิโสะ (มิโสะขาว หรือผสมขาวกับแดงก็ได้) – 2-3 ช้อนโต๊ะ
คลิกที่นี่เพื่อดูหรือซื้อสินค้า
・น้ำ – 2 ถ้วย (ประมาณ 500 มล.)
・ดาชิผง (ผงปลาแห้งญี่ปุ่น) – 1 ช้อนชา (หรือใช้สาหร่ายคอมบุ+ปลาแห้งแท้ก็ได้)
คลิกที่นี่เพื่อดูหรือซื้อสินค้า
・เต้าหู้ญี่ปุ่น (เต้าหู้อ่อน/เต้าหู้ขาว) – 1/2 ก้อน (หั่นเต๋าเล็ก)
・สาหร่ายวากาเมะแห้ง – 1 ช้อนโต๊ะ (แช่น้ำให้นุ่มก่อน)
คลิกที่นี่เพื่อดูหรือซื้อสินค้า
・ต้นหอมซอย – สำหรับโรยหน้า
วิธีทำ
1. เริ่มจากต้มน้ำดาชิ
- ตั้งหม้อใส่น้ำ 2 ถ้วย ใช้ไฟกลาง
- ใส่ผงดาชิลงไป คนให้ละลาย (หากใช้ดาชิสด: ต้มสาหร่ายคอมบุกับปลาแห้งแล้วกรองเอาแต่น้ำซุป)
2. ใส่เต้าหู้และสาหร่าย
- เมื่อน้ำเริ่มร้อน (ไม่ต้องเดือดพล่าน) ใส่เต้าหู้ที่หั่นไว้
- ตามด้วยสาหร่ายวากาเมะที่แช่น้ำจนนุ่ม
3. ละลายมิโสะ
- ตักน้ำซุปออกมาประมาณ 1/3 ถ้วย ใส่มิโสะลงไป คนให้ละลาย
- เทกลับลงในหม้อ คนเบาๆ ให้เข้ากัน (อย่าต้มจนเดือดหลังใส่มิโสะ เพราะจะเสียรสชาติและกลิ่น)
4. ชิมรสและเสิร์ฟ
- ชิมรสตามชอบ ถ้าอยากได้เค็มขึ้นใส่มิโสะเพิ่มได้
- ปิดไฟ แล้วโรยต้นหอมซอยก่อนเสิร์ฟ
เคล็ดลับ
✧ มิโสะแดง (aka miso) รสชาติจะเข้มข้นกว่ามิโสะขาว
✧ มิโสะไม่ควรต้มเดือด เพราะโปรตีนและกลิ่นจะเสีย
✧ สามารถเพิ่มเห็ดเข็มทอง หัวไชเท้า หรือแม้แต่หมูบางๆ ได้ ตามสไตล์ "Tonjiru" ซุปมิโสะแบบจัดเต็ม
4. ข้าวแกงกะหรี่ หมูทงคัตสึทอด (Katsu Curry)
อาหารญี่ปุ่นจานเดียวยอดฮิตที่หลายๆ คนนึกถึง คงขาด “ข้าวแกงกะหรี่หมูทงคัตสึ” ไปไม่ได้ รสชาติแกงกะหรี่เข้มข้ม ราดบนข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ และหมูชุบแป้งทอดกรอบๆ แต่ซ่อนความฉ่ำไว้ข้างใน แค่ได้กลิ่นก็กลืนน้ำลายแล้ว วันนี้เรามาทำข้าวแกงกะหรี่ หมูทงคัตสึทอดกันเถอะ ทำง่าย ประหยัดงบทาน ไปเริ่มกันเลย!
วัตถุดิบ (สำหรับ 2 ที่)
ส่วนทงคัตสึ
・สันนอกหมูหรือหมูสันใน (แบบไม่มัน) – 2 ชิ้น
・เกลือ + พริกไทย – เล็กน้อย
・แป้งอเนกประสงค์ – 1/4 ถ้วย
・ไข่ไก่ – 1 ฟอง
・เกล็ดขนมปัง (Panko) – 1 ถ้วย
・น้ำมันพืช – สำหรับทอด
ส่วนแกงกะหรี่ญี่ปุ่น
・แกงกะหรี่ก้อนญี่ปุ่นสำเร็จรูป – 2-3 ก้อน
คลิกที่นี่เพื่อดูหรือซื้อสินค้า
・หอมใหญ่ – 1 หัว (หั่นเสี้ยว)
・แครอท – 1/2 หัว (หั่นชิ้นพอดีคำ)
・มันฝรั่ง – 1 หัว (หั่นเต๋า)
・น้ำเปล่า – 2.5 ถ้วย
・น้ำมัน – 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. หมูทงคัตสึ
- ทุบเนื้อหมูให้แบนเล็กน้อย ใช้ส้อมจิ้มทั่วชิ้นหมู แล้วโรยเกลือ-พริกไทย
- ชุบแป้งอเนกประสงค์ให้ทั่ว → ชุบไข่ → คลุกเกล็ดขนมปังให้แน่น
- ตั้งน้ำมันให้ร้อน (ไฟกลางค่อนแรง) ทอดหมูจนกรอบทั้งสองด้าน สีเหลืองทอง สุกใน (ประมาณข้างละ 3-4 นาที)
- พักไว้บนกระดาษซับมัน แล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
2. แกงกะหรี่
- ผัดหอมใหญ่ในน้ำมันจนหอม ใส่แครอทและมันฝรั่ง ผัดรวมกันเล็กน้อย
- เติมน้ำเปล่าลงไป ต้มจนผักนิ่ม (ประมาณ 10-15 นาที)
- ปิดไฟชั่วคราว ใส่ก้อนแกงกะหรี่ลงไป คนให้ละลาย แล้วเปิดไฟอ่อนเคี่ยวต่อ 5-10 นาทีจนซอสข้นหอม
3. จัดเสิร์ฟ
- ตักข้าวญี่ปุ่นใส่จาน วางหมูทงคัตสึทอดด้านบน
- ราดแกงกะหรี่ร้อนๆ ลงไปให้ชุ่ม
- เสิร์ฟคู่กับผักดองญี่ปุ่นหรือสลัดก็ดีงามสุดๆ
เคล็ดลับ
✧ ถ้าชอบรสจัดหน่อย ให้เพิ่มผงกะหรี่หรือผงพริกญี่ปุ่นลงไปนิดนึงตอนเคี่ย
✧ ใช้หม้อแบบเคลือบหรือ non-stick จะช่วยให้แกงไม่ติดหม้อตอนเคี่ยว
✧ หากใส่แอปเปิ้ลในขั้นตอนใส่ผักก็จะทำให้รสชาติมีมิติมากยิ่งขึ้น
5. สุกี้ยากี้ญี่ปุ่น (Sukiyaki)
หม้อไฟญี่ปุ่นแสนอบอุ่น หากกำลังมองหามื้อพิเศษในวันพิเศษอยู่ สรรหาแนะนำเป็นเมนูนี้เลยค่ะ “สุกี้ยากี้ญี่ปุ่น” เป็นเมนูที่ล้อมวงกันทานได้หลายคน ได้บรรยากาศอบอุ่นพร้อมกับทานอาหารอร่อยๆ ด้วยกัน รับรองว่าฟิน เสน่ห์ของสุกี้ยากี้อยู่ที่การใช้เนื้อสไลซ์บางๆ จุ่มในซอสหวานเค็มกลมกล่อม พร้อมผักต่างๆ เติมเต็มความสุขในแต่ละคำที่ทาน มาถึงขนาดนี้แล้วอย่ารอช้า ไปดูวัตถุดิบและวิธีการทำกันเลยค่ะ
วัตถุดิบ (สำหรับ 2-3 ที่)
・เนื้อวัวสไลซ์บาง (หรือหมู/ไก่ตามชอบ) – 300 กรัม
・เต้าหู้ขาวญี่ปุ่น – 1 ก้อน (หั่นชิ้นพอดีคำ)
・เส้นบุก/วุ้นเส้นญี่ปุ่น – 1 ห่อ (ลวกน้ำก่อนใช้)
คลิกที่นี่เพื่อดูหรือซื้อสินค้า
・เห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดเข็มทอง – 1 ถ้วย
・ผักกาดขาว/ผักโขมญี่ปุ่น/ต้นหอมญี่ปุ่น – ตามชอบ
・หัวหอมใหญ่ – 1 หัว (หั่นเสี้ยว)
・ไข่ไก่สด (สำหรับจิ้ม) – 1 ฟองต่อคน
ส่วนผสมน้ำซุปสุกี้ยากี้ (Warishita)
・โชยุ (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) – 1/4 ถ้วย
・มิริน (เหล้าหวานญี่ปุ่น) – 1/4 ถ้วย
・สาเก – 2 ช้อนโต๊ะ
・น้ำตาลทราย – 1.5 ช้อนโต๊ะ
・น้ำเปล่า – 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
1. เตรียมวัตถุดิบ
- หั่นผัก เต้าหู้ เห็ด และส่วนผสมทุกอย่างให้เรียบร้อย
- ผสมส่วนผสมของซุป Warishita ให้เข้ากัน พักไว้
2. เริ่มทำสุกี้ยากี้
- ตั้งหม้อหรือกระทะใบใหญ่ ใส่น้ำมันเล็กน้อย
- ผัดหัวหอมกับเนื้อวัวให้พอสุกหอม (ยังไม่ต้องใส่น้ำซุปทั้งหมด)
- ค่อยๆ เติมซุป Warishita ลงไปประมาณครึ่งนึง แล้ววางผัก เต้าหู้ และเส้นต่างๆ ลงในหม้อ
3. ต้มและเคี่ยว
- ปิดฝา ต้มประมาณ 5-10 นาที หรือจนผักนิ่มและทุกอย่างสุก
- เติมซุปเพิ่มได้หากน้ำงวดลง
4. เสิร์ฟแบบญี่ปุ่นแท้ๆ
- ตีไข่สดใส่ถ้วย แล้วใช้จุ่มเนื้อหรือผักร้อนๆ ก่อนกิน
- จะกินเปล่าๆ หรือตักราดข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยสุดๆ!
เคล็ดลับ
✧ ถ้าไม่กินไข่สด สามารถข้ามไปได้เลย หรือใช้ซอสพอนสึแทน
✧ ใช้เนื้อคุณภาพดีจะช่วยให้รสละมุนมากขึ้น
✧ เติมเส้นอุด้งลงไปตอนท้ายรอบสองก็ฟินไม่แพ้กัน!
6. พิซซ่าญี่ปุ่น (Okonomiyaki)
เมนูสตรีทฟู้ดยอดนิยมจากญี่ปุ่น ถือว่าเป็นเมนูที่ทำง่าย ทานสนุก สามารถปรับแต่งหน้าหรือไส้ที่จะใส่ได้ตามใจชอบ แผ่นแป้งแพนเค้กจะเต็มไปด้วยผัก กุ้ง หมู เบคอน หรือแม้แต่ชีส ก็แล้วแต่เรา แล้วราดซอสหวานเค็มเข้มข้นกับมายองเนสญี่ปุ่น โรยสาหร่ายและปลาแห้งเยิ้มๆ เท่านั้นก็ฟินสุดๆ แล้วล่ะค่ะ
วัตถุดิบ (สำหรับ 2 ที่)
・แป้งเอนกประสงค์ – 1 ถ้วย
・ไข่ไก่ – 2 ฟอง
・น้ำเปล่า – 1/2 ถ้วย (หรือใช้น้ำดาชิจะหอมมากขึ้น)
・กะหล่ำปลีซอย – 2 ถ้วย
・ต้นหอมซอย – 2 ต้น
・เบคอน หรือหมูสามชั้นหั่นบาง – 4 แผ่น
・กุ้งสด (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) – 100 กรัม
・ซอสโอโคโนมิยากิ (หรือซอสทงคัตสึ/วูสเตอร์ซอส) – สำหรับราด
คลิกที่นี่เพื่อดูหรือซื้อสินค้า
・มายองเนสญี่ปุ่น – สำหรับราด
・สาหร่ายแห้ง (อาโอโนริ) – สำหรับโรย
คลิกที่นี่เพื่อดูหรือซื้อสินค้า
・ปลาแห้งบด (คัตสึโอะบูชิ) – สำหรับโรย
คลิกที่นี่เพื่อดูหรือซื้อสินค้า
วิธีทำ
1. เตรียมแป้งและส่วนผสมหลัก
- ใส่แป้ง + น้ำ + ไข่ ตีให้เข้ากัน
- ใส่กะหล่ำปลี ต้นหอม และเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ คนเบาๆ ให้เข้ากันทั้งหมด
2. ทอดให้กรอบนอกนุ่มใน
- ตั้งกระทะเทฟล่อน ใส่น้ำมันเล็กน้อย
- เทส่วนผสมลงไป ปั้นให้เป็นแผ่นกลม หนาประมาณ 1.5 ซม.
- วางเบคอนไว้ด้านบน แล้วปิดฝา ทอดด้วยไฟกลาง-อ่อนประมาณ 5-6 นาที
3. พลิกกลับด้าน
- ค่อยๆ กลับด้านให้เบคอนลงข้างล่าง ทอดต่ออีก 5-6 นาทีจนสุกทั้งสองด้าน
4. จัดเสิร์ฟร้อนๆ
- วางบนจาน ทาซอสโอโคโนมิยากิให้ทั่ว
- ราดมายองเนสแบบซิกแซก โรยสาหร่ายและปลาแห้งให้พูนๆ
เคล็ดลับ
✧ ถ้าอยากได้แป้งกรอบนอกนุ่มใน เติมแป้งมันเล็กน้อยตอนผสม
✧ ใช้น้ำดาชิแทนน้ำเปล่า จะช่วยให้หอมกลิ่นญี่ปุ่นมากขึ้น
✧ เปลี่ยนโปรตีนหรือผักได้ตามใจชอบ ความสนุกในการทำและทานอยู่ที่ตรงนี้เลย
4 เมนูอาหารเช้ากับ 50 ไอเดียง่าย ๆ
รวม 13 สูตรโซจู...เมาไม่มีเบื่อ
มาเพิ่มเสน่ห์ปลายจวักกัน และเติมความสุขในอาหารมื้อนี้กันค่ะ! แต่ละเมนูที่สรรหานำมาเสนอวันนี้ รับประกันว่าเป็นเมนูยอดฮิตของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ในการปรุงรสามารถปรับได้ตามใจชอบ หรือสามารถเปลี่ยนแปลงโปรตีนได้ตามที่เพื่อนๆ ต้องการเลยนะคะ ใครสะดวกแบบไหนก็ทำแบบนั้นได้เลย แล้ววันหน้าสรรหาจะมีอะไรมาฝากเพื่อนๆ อีก ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
ผู้เขียน :

ทุกทางออกมีปัญหาเสมอ
ออกแบบกราฟิก :

ทุกทางออกมีปัญหาเสมอ