9 สาเหตุที่ทำให้ระบบเผาผลาญพัง!!

เคยมั้ย!! เราคิดว่าเราอ้วนง่ายมากๆ แค่ชิมอะไรนิดอะไรหน่อยก็อ้วนแล้ว แต่เพื่อนบางคนที่กินทุกอย่างเหมือนกับเราหมด แต่!!เพื่อนเค้าไม่เห็นอ้วนเลย เพื่อนๆ รู้หรือยังว่าเป็นเพราะอะไรซึ่งจริงๆ แล้วเราสามารถแก้ได้นะ แก้ได้ด้วยการดูแลระบบเผาผลาญของเราให้ดีขึ้นให้มันสามารถเผาผลาญได้มากขึ้น วันนี้สรรหาเลยจะมาแชร์ “9 สาเหตุที่ทำให้ระบบเผาผลาญเราพัง” เราจะได้เลิกทำพฤติกรรมแย่ๆแบบนี้สักที (แต่บางทีก็เสื่อมตามอายุไขเนอะ เราก็ไปปรับเปลี่ยนจากเรื่องอื่นแทน)

ระบบเผาผลาญ หรือ Metabolism เป็นหัวใจ  สำคัญของการดูแลสุขภาพ หากระบบเผาผลาญทำงานได้ดี

สารอาหารที่กินเข้าไปก็จะถูกเปลี่ยนไปเป็นพลังงานที่ช่วยให้ระบบอื่นๆ ในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ

1. อายุที่มากขึ้น

โดย “Metaboliem” ของเราจะค่อยๆ เสื่อมตามธรรมชาติลง 5% ทุกๆ 10 ปี เมื่ออายุเราแตะเลข 4 แยกเมื่อไหร่ ก็จะตามมาด้วยเรื่องเพศและสรีระซึ่งจะสังเกตได้ว่า ผู้ชายจะเผาผลาญดีกว่าผู้หญิงเพราะด้วยรูปร่างและกล้ามเนื้อที่มีมากกว่าผู้หญิง ไม่แปลกที่ผู้หญิงยิ่งอายุมากจะลดน้ำหนักยาก!! 

เคล็ดลับ คือ ต้องเพิ่มกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายแบบ Bodtweight + รับประทานโปรตีนให้เพียงพอต่อวัน

2. กินมากหรือกินน้อยไป

หลายคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้อยู่ เช่นทำงานหนักจนไม่มีเวลาทานข้าว หรือบางคนก็ทานทั้งวันจนไม่มีเวลาให้กระเพาะอาหารได้พักเลยร่างกายก็จะเผาผลาญได้ไม่เต็มที่ ทางที่ดีควรทานอาหารให้เป็นเวลา ทานอาหารให้มื้อนั้นๆให้จบ ไม่ควรทานจุกจิก

3. ร่างกายขาดโปรตีน

โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญที่สุดในการดูแลสุขภาพ การลดน้ำหนักและการมีรูปร่างที่ดี ยิ่งทานโปรตีนมากก็ยิ่งเพิ่มอัตราเผาผลาญได้มาก ลดความอยากอาหารและยังช่วยคงมวลกล้ามเนื้อป้องกันการสลายของมวลกล้ามเนื้อ  (ยิ่งกล้ามเนื้อน้อยก็ยิ่งเผาผลาญแย่)

เคล็ดลับ ควรทานโปรตีน 1:1 ของน้ำหนักตัวเพื่อให้เพียงพอต่อการซ่อมแซมของร่างกาย

4. นอนไม่เพียงพอ

เนื่องจากการอดนอนนั้นจะเกี่ยวพันกับฮอร์โมน 3 ตัวคือ เกรลิน (ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความหิว) ซึ่งจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเมื่อเราอดนอน เลปติน (ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความอิ่ม) ซึ่งจะมีปริมาณลดลงทำให้เราหิวมากขึ้นเมื่อเข้านอนดึกหรือนอนไม่พอ และคอร์ติซอล (ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด) สาวๆ จะรู้สึกเครียดได้ง่ายมากขึ้นเมื่อไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ และแน่นอนว่าเมื่อเราอดนอนบ่อยๆ ระบบเผาผลาญก็จะทำงานได้ลดลง ส่งผลให้เราอ้วนขึ้นและลดน้ำหนักได้ยากมากขึ้น

เคล็บลับ ควรเข้านอนให้ทันในช่วงเวลา 22.00-02.00น. หรือถ้าไม่ทันจริงๆ ควรนอนให้ครบ 7-8 ชั่วโมงในห้องที่ไม่มีแสง

5. กินอาหารน้ำตาลสูงมากเกินไป

อาหารที่น้ำตาลสูงส่วนมากจะเป็นอาหารที่ผ่านกรรมวิธีที่หลากหลายเช่น ข้าว โดนัท ขนมหวาน หรืออาหารที่ผ่านการขัดสีและปรุงรสชาติมาแล้ว อาหารเหล่านี้ก็จะขาดไฟเบอร์ วิตามิน เกลือแร่ พูดง่ายๆ คือแทบจะไม่เหลือสารอาหารใดๆเลยนอกจาก แคลอรี่!! อาหารเหล่านี้ก็ไม่มีสารอาหารให้ร่างกายเราเลยทำให้เราอิ่มท้องแค่ช่วงแวลาสั้นๆ และอาจหิวง่ายจนกินอาหารในปริมาณมากกว่าเดิมอีกด้วย

6. น้ำหนักขึ้นๆลงๆ เพราะลดน้ำหนักผิดวิธี

วิธีที่คุ้นเคยคือการกินอาหารน้อยมากถึงมากที่สุดในแต่ละวันในระยะยาวก็ส่งผลให้ระบบเผาผลาญพังได้อย่างแบบไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีคือ “ยิ่งลดยิ่งอ้วน” สาเหตุก็เพราะว่าหากร่างกายได้รับอาหารในปริมาณที่น้อยกว่าความต้องการ ก็จะทำให้ไม่มีพลังงานมากพอที่จะทำให้ระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างปกติ ที่สำคัญยังเป็นตัวทำให้ระบบเผาผลาญเทำงานช้าลงด้วย (กินน้อยร่างกายก็คิดว่าเราติดถ้ำ มันกลัวเราตายเลยเก็บไว้ไม่ยอมเผาผลาญ) พอระบบย่อยอาหารทำงานไม่เต็มที่ ก็ส่งผลทำให้น้ำหนักลงช้า อ้วนง่าย และทำให้อารมณ์แปรปรวนอีกด้วย

7. ขาดการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายใครๆก็รู้ว่าดีต่อสุขภาพ แต่ไม่ใช่การออกกำลังทุกอย่างจะช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญเพราะการออกกำลังกายแบ่งหมดได้เป็น 3 หมวด

• คาร์ดิโอ เบิร์น เช่น เดินเร็ว วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือเต้นรำ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากพัฒนาระบบไหลเวียนเลือด หัวใจ ปอด และอยากเบิร์นพลังงานส่วนเกินมากๆ ถ้าต้องการเผาผลาญไขมันต้องออกในระดับที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วระดับหนึ่งเพื่อให้เลือดสูบฉีดช่วงนั้นร่างกายจะดึงไขมันมาใช้
• การยืดเหยียด เช่น โยคะ พิลาทิส ชี่กง เหมาะสำหรับผู้ที่อยากให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นเพื่อลดโอกาสบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหว ช่วยเสริมสมรรถภาพร่างกายในการออกกำลังกายและในชีวิตประจำวัน
• เวทเทรนนิ่งหรือออกกำลังแบบแรงต้าน เช่น วิดพื้น ซิทอัพ เล่นเวท เหมาะสำหรับผู้ที่อยากพัฒนากล้ามเนื้อให้แข็งแรง กระชับสัดส่วนและต้องการเพิ่มระดับการเผาผลาญให้ดีขึ้น

8. ใช้ชีวิตแบบนั่งๆนอนๆ

ใครที่ชอบนั่งๆ นอนๆ ดูซีรีย์อยู่บ้าน หรือมนุษย์ออฟฟิศที่ต้องนั่งติดเก้าอี้ตลอด ถ้าเรามีพฤติกรรมแบบนี้ไปนานๆ ก็ยิ่งทำร้ายสุขภาพและทำลายระบบเผาผลาญให้พังลงได้ เพราะการนั่งท่าเดิมนานๆ จะทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน รวมถึงทำให้ระบบเผาผลาญเราทำงานช้าลงด้วย ทีนี้ก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต และการเผาผลาญไขมันด้วยเช่นกัน

เคล็ดลับ คือตั้งนาฬิกาทุก 15-30 นาที เพื่อขยับบ่อยๆ ลุกออกไปดื่มน้ำ ลุกไปเข้าห้องน้ำก็ดี

9. ดื่มแอลกอฮอล์ทุกวัน

ทำงานมาทั้งวันแล้วงานก็เครียดอีกด้วย นี่เลยเป็นสาเหตุหลักๆ ของใครหลายคนที่ทำให้หลังเลิกงานเราต้องไปปลดปล่อย ไปปาร์ตี้ในยามค่ำคืน เครื่องดื่มที่ทำให้เรารู้สึกปลดปล่อยก็หนีไม่พ้น “เหล่ากองทัพแอลกอฮอล์” นี่ก็เป็นสาเหตุให้ระบบเผาผลาญเราพัง เพราะเมื่อแอลกอออล์เข้าสู่ร่างกายแล้วก้อาจจะไปขัดขวางการเผาผลาญไขมัน จนทำให้เราเผาผลาญไขมันได้น้อยลงและระบบเผาผลาญทำงานช้าลงไปด้วย ที่สำคัญเครื่องดื่มเหล่านี้เมื่อดื่มในปริมาณมากก็ยิ่งส่งผลทำให้ไปเกิดไขมันไปสะสมที่พุงได้ง้ายหรือเรียกว่า “ลงพุง” นั่นเอง

หลายๆ คนรู้สึกว่า 9 ข้อที่กล่าวมานี้มันเป็นชีวิตประจำวันของเราเลย มันน่าจะยากสำหรับเราหรือป่าวนะ แต่เชื่อเถอะ เพื่อนๆ ลองค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในแต่ละข้อให้ดีนะในอนาคตมันจะมีต่อตัวเพื่อนๆ เองมากเลย เพราะยิ่งอายุเยอะก็อาจจะเกิดโรคต่างๆ มากขึ้นแต่ถ้าสุขภาพร่างกายเราดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ยังไงสรรหาก็เป็นกำลังใจให้นะคะ